เป็นวัดทางคริสต์ศาสนา ที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชได้พระราชทานที่ดินให้แก่บรรดาบาทหลวงเจซูอิต ที่เดินทางเข้ามาในสยามเมื่อ พ.ศ. 2229 พร้อมกับคณะราชทูต เดอ ลา ลูแบร์ เป็นที่ทราบกันดีว่า สมเด็จพระนารายณ์ฯ ทรงสนพระทัยในเรื่องดาราศาสตร์มาก เมื่อมีกลุ่มบาทหลวงที่จะเดินทางไปยังประเทศจีนเข้ามาในราชอาณาจักรก็ทรงพระกรุณาต้อนรับและให้สิทธิต่างๆ ในการตั้งกล้องสำรวจปรากฏการณ์สุริยุปราคา และจันทรุปราคา
วัดสันเปาโล หรือวัดเซนต์ ปอล (Saint Paul) คงมีขนาดใหญ่พอสมควร เพราะมีหลักฐานเป็นภาพเขียนสีน้ำมันรูปหอดูดาวที่วัดแห่งนี้ เป็นหอดูดาวแปดเหลี่ยมสูงสามชั้น ชั้นบนสุดสามารถใช้ตั้งกล้องดูดาวได้ ปัจจุบันยังคงมีร่องรอยแนวบันไดและช่วงชั้นปรากฏให้เห็นที่ผนัง ส่วนอาคารอื่นๆ เช่น ที่พักของบาทหลวงซูอิต ห้องประกอบพิธีกรรมทางศาสนาและหมู่อาคารต่างๆ ไม่ปรากฏร่องรอยให้เห็นแล้ว อย่างไรก็ตาม จากหลักฐานที่ปรากฏ ผนังส่วนที่เหลือของอาคารหอดูดาว ทำให้สันนิษฐานได้ว่าคงมีลักษณะของศิลปะไทยร่วมผสมอยู่ด้วย เพราะมีการใช้ลวดบัวเป็นเส้นคั่น
บาทหลวงเจซูอิตที่สำคัญที่มีบทบาทในการปฏิวัติ คือ บาทหลวงตาชาร์ด ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนอย่างลับๆ ให้กองกำลังทหารฝรั่งเศสเดินทางเข้ามาตั้งมั่นในสยามได้ บาทหลวงตาชาร์ดเป็นผู้ถือจดหมายลับของฟอลคอนไปยังบาทหลวงเดอ ลา แชส บาทหลวงผู้ไถ่บาปของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เป็นผู้ร้องขอให้ทาง
ศาสนจักรส่งทหารฝรั่งเศสเข้ามาในสยาม เพื่อที่ฟอลคอนจะจัดให้เข้ามาทำงานในกรมกองต่างๆ และเพื่อยืนยันว่า หากฝรั่งเศษสามารถส่งกองทหารเข้าไปยังสยามแล้วก็มีความเป็นไปดี่จะยึดสยามไว้เป็นเมืองขึ้น